มะเร็งปากมดลูก โรคร้ายที่สามารถป้องกันได้

มะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงในประเทศไทยมีการตรวจพบว่ามีจำนวนสูงเป็นอันดับสองรองจากมะเร็งเต้านม ทุก ๆ ปีจะมีผู้ป่วยประมาณ 10,000 ราย และมีอัตราการเสียชีวิตถึง 52 %

มะเร็งปากมดลูก

สาเหตุของการเกิดโรค มะเร็งปากมดลูก

สาเหตุหลักของมะเร็งในปากมดลูกคือการติดเชื้อไวรัส HVP ชนิดที่ก่อมะเร็ง และชนิดความเสี่ยงสูงโดยส่วนใหญ่จะมาจากการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่คงอยู่นาน โดยมีระยะเวลาฟักตัวประมาณ 6 สัปดาห์ ไปจนถึง 8 เดือน ส่วนใหญ่จะค่อย ๆ หายไปภายใน 1 ปี ซึ่งหากมีการติดเชื้อ HVP จนกลายเป็นมะเร็งก็อาจจะใช้ระยะเวลาประมาณ 10-15 ปี

ปัจจัยเสี่ยง มะเร็งปากมดลูก

ปัจจัยเสี่ยงทางฝ่ายหญิง

  • มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
  • มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายหลายคน
  • เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • มีลูกหลายคน
  • ทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานาน
  • ไม่เคยตรวจมะเร็งปากมดลูก

ปัจจัยเสี่ยงจากผู้ชาย

  • เป็นมะเร็งองคชาต
  • เคยมีภรรยาเป็นมะเร็งที่ปากมดลูก
  • เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  • มีคู่นอนหลายคน

ปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ  สูบบุหรี่ มีภูมิคุ้มกันต่ำ ขาดสารอาหารบางชนิด และขาดการเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ในการตรวจโรค

วิธีป้องกัน และลดความเสี่ยง มะเร็งปากมดลูก

การป้องกันสามารถทำได้โดยการเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV แบบคงอยู่นานที่จะส่งผลทำให้มดลูกเป็นมะเร็งซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 10-15 ปี ซึ่งหากตรวจในระยะที่ยังไม่เป็นมะเร็งก็จะสามารถรักษาได้ โดยการแบ่งระดับ

ระดับที่ 1

เป็นช่วงป้องกันไม่ให้ปากมดลูกติดเชื้อ HPV คือ หากมีเพศสัมพันธ์ให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ไม่มีคู่นอนหลายคน และฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV

ระดับที่ 2

ตรวจหาความผิดปกติในระนะก่อมะเร็งคือ กี่ตรวจคัดกรอง การตรวจหาเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่จะก่อมะเร็ง

ระดับที่ 3

เป็นช่วงการรักษาเพื่อให้หาย และรักษาแบบประคับประคอง

อาการ มะเร็งปากมดลูก

อาการที่แสดงจะขึ้นอยู่กับระยะของโรค อาการที่พบได้ส่วนใหญ่ก็อย่างเช่น ในช่องคลอดมีเลือดออกมากผิดปกติ มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ตกขาวมาก และปนเลือด หากรุนแรงก็อาจจะมีอาการ ขาบวม ไตวาย ต่อมน้ำเหลืองโต ปัสสาวะ อุจจาระเป็นเลือด

วิธีการรักษา มะเร็งปากมดลูก

วิธีผ่าตัด – ส่วนใหญ่จะใช้ในระยะที่ 1-2

รังสี – รักษาทุกระยะ

เคมีบำบัด – ระยะลุกลามมาก หรือกลับมาเป็นซ้ำ

จะเห็นได้ว่า มะเร็งปากมดลูก กว่าจะเป็นโรคได้เชื้อ HPV ต้องใช้เวลาก่อตัวนาน 10 -15 ปี ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดควรเข้ารับการคัดกรองโรคเพื่อตรวจหาเชื้อหากไม่พบก็จะทำให้สบายใจได้ และหากตรวจพบก็จะสามารถรักษาได้ทันท่วงทีก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง