การทำสีรถใหม่ ประเภทการทำสีรถ ข้อดี ข้อเสีย

คนรักการดูแลรถนั้นโดยส่วนใหญ่แล้วก็อยากจะให้สีของตัวถังรถยนต์นั้นดูใหม่ ดูเงางามอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปแน่นอนว่าสีของตัวรถจะต้องมีหมอง มีสีถลอก มีรอยขีดข่วนขึ้นมาบ้าง หากรถมีการไปเฉี่ยวชนขึ้นมาก็จะยิ่งทำให้สีรถนั้นเกิดความเสียหายมาก หลายคนจึงคิดอยากที่จะทำสีรถใหม่ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น หรืออาจเบื่อสีรถเดิมแล้วอยากเปลี่ยนสีใหม่ก็ไม่แปลก

สีสำหรับรถยนต์สามารถแบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้

สี OEM

เป็นสีที่โรงงานประกอบรถยนต์ใช้กัน สี OEM นั้นมีองค์ประกอบเดียว ก่อนนำมาใช้งานอาจจะผสมกับตัวทำละลายเพื่อความสะดวกในการใช้งานมากขึ้น สีชนิดนี้จะแห้งตัวลงโดยอบที่อุณหภูมิ 120-160 °C จึงเรียกสีประเภทนี้อีกชื่อหนึ่งว่า สีอบ หลังจากที่ทำเสร็จจนสีมีการแห้งตัวดีแล้ว คุณภาพของฟิล์มสีนั้นจะดีมาก สีมีความคงทน ทานทานต่อตัวทำละลายอย่าง น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ทินเนอร์ รวมทั้งมีความทนทานต่อสารเคมีต่างๆได้เป็นอย่างดี สีมีความเงางาม ทนแต่แสงแดด ไม่ซีดจางง่าย มีอายุการใช้งานยาวนาน

สี 1K

เป็นสี 1 องค์ประกอบ หากต้องการใช้งานอาจนำมาผสมตัวทำละลายอย่างเช่นทินเนอร์ โดยตัวทำละลายนั้นจะไม่นับเป็นองค์ประกอบ เนื่องจากจะระเหยไปจนหมดคงเหลือแต่สีที่มีการแห้งตัว โดยที่สี 1K จะมีชนิดต่างๆดังนี้

  • สี 1K ซินเทติกอีนาเมล เป็นสีแบบแห้งตัวได้ช้า ซึ่งการแห้งตัวนั้นจะอาศัยการทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ
  • สี 1K ไนโตรเซลลูโลส เป็นสีแบบแห้งตัวเร็ว ซึ่งสีแห้งตัวได้โดยการระเหยของตัวทำละลาย
  • สี 1K อะคริลิค เป็นสีแบบแห้งตัวเร็ว สีแห้งตัวได้โดยการระเหยของตัวทำละลาย

สี 2K

เป็นสี 2 องค์ประกอบ องค์ประกอบแรกคือตัวสี องค์ประกอบที่ 2 คือ ตัวเร่งปฏิกิริยา ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้จะเป็นสารประเภทไอโซไซยาเนท ก่อนนำมาใช้งานจะต้องนำ 2 องค์ประกอบนี้มาผสมกันซะก่อน เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีทำให้สีแห้งตัว สำหรับสี 2K ที่ใช้สำหรับงานสีรถยนต์จะมี สี 2K อีพ็อกซี่ และ สี 2K แบบ โพลียูรีเทน โดยสี 2K นั้นจะมีคุณสมบัติด้านความคงทนของสี ป้องกันการซีดจางได้ใกล้เคียงสี OEM

ข้อดีของการทำสีรถ

  • ทำให้รถมีสีที่ดูสวยงาม และมีความใหม่ขึ้น
  • ป้องกันตัวถังของรถยนต์จากสนิม
  • หากทำสีแบบ 2K จะมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับสีรถที่ผลิตออกมาจากโรงงาน มีอายุการใช้งานยาวนาน 5 ปี

ข้อเสียของการทำสีรถ

  • สีไม่เรียบ หลุดลอกง่าย หากคุณทำกับช่างที่ไม่มีความชำนาญก็จะเกิดปัญหานี้ ดังนั้นควรทำสีรถกับช่างที่มีความเชี่ยวชาญเท่านั้น

ไม่ว่าจะเป็นอู่ทำสีรถหรือศูนย์บริการรถยนต์ต่างๆ ก็จะมีการซ่อมหรือทำสีรถใหม่โดยใช้สีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท คือ สี 1K และสี 2K เพราะว่าที่อู่หรือศูนย์บริการจะไม่มีขั้นตอนในการอบสีที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 120-160 °C อย่างที่ใช้กันในโรงงานผลิตรถยนต์ ดังนั้นการทำสีรถใหม่คุณจะได้แค่ในความใกล้เคียงกับสีเดิมของโรงงานเท่านั้น